Only you… แค่เพียงเธอ
เธอช่วยชีวิตเขาไว้ ทำให้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเปลี่ยนไป ครั้งแรกที่คุยกันกลับกลายเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน เขาจะตามหาเธอจนเจอ เพราะเธอคือคนเดียวที่ทำให้หัวใจดุจศิลาของเขาเปิดรับรักใครสักคน
ผู้เข้าชมรวม
217
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แรกรู้จัก
แกร๊บ!!
ศิลาขยำใบประกาศนียบัตรจนเป็นก้อนกลมยับยู่ยี่ ภายใจนึกถึงคำพูดที่ทิ่มแทงจิตใจของเขา
‘ถ้าแกไม่ได้รางวัลที่1 ฉันจะเพิ่มเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นอีก ฉันจะไม่ให้แกไปไหนตามใจ อย่าหวังว่าฉันจะให้อะไรที่แกขอ จำไว้!’
ศิลาโยนก้อนกระดาษสุดแรง เพราะความสูงของตึก กว่าจะได้ยินเสียงกระดาษที่ตกลงไปก็ใช้เวลาซักพัก
‘ทำไม…ทำไม’ ภายในใจของศิลามีเพียงคำคำนี้ เขาพยายามอย่างหนัก ทั้งอ่านหนังสือตามตารางที่พ่อจัดไว้ นอนเที่ยงคืนแล้วตื่นมาตีสามเพื่อมาอ่านอีก วันหยุดเขาแทบไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน อย่าว่าแต่เที่ยวเลย แค่เขาอยากกินอะไรที่เขาอยากกิน ยังไม่มีสิทธิ์เลือกเลย ทุกวันเขาต้องคอยทำตามทุกอย่างที่พ่อสั่ง ทำทุกอย่างที่พ่อให้ทำ ความกดดันทุกอย่างตกอยู่ที่เขา เพราะเขาคือลูกคนโตของบ้าน เขาคือพูดสืบทอดธุรกิจของครอบครัว ทุกๆอย่างที่พ่อคาดหวังจึงต้องสมบูรณ์แบบ ทั้งต้องเป็นคนที่ฮอตในโรงเรียน เรียนให้เก่ง กิจกรรมต้องเด่น เป็นที่รักของคนทุกคนในโรงเรียน
ใครจะรู้ว่าเขาต้องพยายามฝืนยิ้ม ทำตัวร่าเริงต่อหน้าทุกๆคนแค่ไหน ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ ความคาดหวังและแรงกดดันที่เขาต้องแบกไว้
ศิลาเหลือบมองข้อมือ ปรากฏรอยแผลที่ทั้งแห้งไปแล้วและยังคงมีเลือดสีแดงสดอยู่ มันเคยเป็นทางเดียวที่ทำให้เขาหยุดคิดมาก ยิ่งเจ็บมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เขาหยุดคิดถึงสิ่งต่างๆรอบตัวไปได้ แต่ตอนนี้ มันไม่ใช่อีกแล้ว ความเจ็บปวดแค่นี้ มันไม่สามารถช่วยเยียวยาเขาได้อีกแล้ว ทางเดียวที่เขาจะจบความเจ็บปวดเหล่านี้คือ…
…การหลับตาโดยไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลย…
ดวงตะวันค่อยๆทอแสงลง เสียงเซ็งแซ่ของนักเรียนในโรงเรียนค่อยๆเงียบลง นักเรียนคงใกล้กลับหมดแล้ว ดี ตอนที่เขาตกลงไปจะได้ไม่ต้องมีใครมามุงหรือถ่ายรูป จะได้ไม่มีใครมาสงสารเขาหรือมองดูภาพที่น่าสมเพชแบบนี้
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้น และเดินไปที่ริมดาดฟ้า พาตัวเขาปีนขึ้นไป ตอนนี้เขายืนอยู่จุดสูงสุดของดาดฟ้าแล้ว ไม่มีความคิดใดๆมาฉุดรั้งตัวเขาได้อีก เขากำลังหลุดพ้นจากสิ่งที่เขาแบกมาทั้งชีวิตแล้ว สายลมเย็นสบายพัดต้องหน้าของเขา ‘คงถึงเวลาแล้วสินะ…’ ชายหนุ่มมองภาพสุดท้ายในชีวิตของเขา ศิลาสูดลมหายใจลึก ลมหายใจเฮือกสุดท้าย…
ชายหนุ่มกำลังทิ้งตัวลง เท้ายังไม่ทันพ้นพื้นของดาดฟ้า เขารับรู้ถึงแรงกระชากจากข้อมือของเขา
“โอ้ย!!!!!”
ร่างของศิลากระแทกพื้น เขารู้สึกเจ็บที่ข้อมือ แต่คนที่น่าจะเจ็บกว่า น่าจะเป็นเด็กสาวตรงหน้า แต่ดูจากสีหน้าของเธอ ไม่ได้แสดงถึงความเจ็บปวดสักนิด
“พี่คิดจะทำอะไรน่ะ พี่รู้ไหม ถ้าพี่ตกลงไป พี่ตายได้เลยนะ รู้รึเปล่า!” น้ำเสียงของเด็กสาวสั่น
“รู้! เธอจะมายุ่งทำไม ยัยเฉิ่ม” เขาพูด
ยัยเฉิ่ม…เด็ก ม.3 ที่ได้ไปสอบแข่งขันคณิตศาสตร์เพื่อเป็นตัวแทนจังหวัดกับเขา เธอแข่งะดับมัธยมต้น เขาแข่งระดับมัธยมปลาย ที่เขาเรียกว่ายัยเฉิ่มเพราะหน้าตาที่ใส่แว่นหนาเตอะ ผมมัดรวบตึง กระโปรงคลุมเข่า ชุดนักเรียนเรียบกริบ เรียกได้ว่าถูกระเบียบทุกอย่าง หลายๆคนเลยเรียกเธอว่ายัยเฉิ่ม
ตอนที่มาติวด้วยกัน ศิลาไม่เคยเห็นเด็กสาวสบตากับเขาตรงๆ เอาแต่ก้มหน้า เขาและเธอไม่เคยพูดกันเลยสักครั้ง ต่างคนต่างก้มหน้าติว แม้กระทั่งตอนนั่งรถไปแข่งด้วยกัน ชายหนุ่มเห็นเด็กสาวยังคงก้มหน้าเหมือนเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงของเธอ
“ฉันต้องยุ่งค่ะ ก็พี่จะพาตัวเองไปตาย พี่จะทำร้ายตัวเองไปถึงไหน”
มือของเธอจับแขนของศิลาไว้แน่น ดูจะกลัวว่าชาวหนุ่มจะลุกไปทำแบบนั้นอีก
“ก็ฉันอยากตาย ฉันเลือกที่จะไปตายของฉันเอง เธอไม่รู้อะไรก็อย่ามาห้ามฉัน!” ศิลาสลัดแขนให้หลุดจากมือของเด็กสาว เขาลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับไปที่ริมดาดฟ้า ไม่สนสายตาของเด็กสาวว่าเธอจะเห็นภาพความตายของเขาหรือไม่
“แล้วพี่คิดว่า ความตาย มันจะช่วยให้ทุกๆอย่างจบเหรอคะ พี่คิดว่าตายไปแล้วความเจ็บปวดที่พี่แบกไว้จะหายไปจริงๆเหรอคะ”
ศิลาหยุดเดิน คำพูดของเธอเหมือนหยุดความคิดทุกๆอย่างในหัวของเขา เขาได้ยินเสียงเดินของเด็กสาวก้าวเข้ามาใกล้ทุกที
“หยุดเถอะนะคะ ถ้าพี่ทำแบบนี้ พี่จะกลับมาแก้อะไรไม่ได้เลยนะคะและพี่อาจจะเสียใจทีหลังก็ได้ค่ะที่ทำแบบนี้” ชายหนุ่มไม่พูดอะไร
“ฉันไม่รู้นะคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ ฉันรู้ว่าพี่ไม่ยอมเล่าให้คนแปลกหน้าอย่างฉันแน่นอน แต่ถือว่าฉันขอนะคะ พี่อย่าทำแบบนี้นะคะ”
เธอยื่นมือมาจับมือของชายหนุ่ม มือที่เต็มไปด้วยรอยแผล เด็กสาวหยิบผ้าสะอาดออกมาจากกระเป๋าและนำมาพันข้อมือของเขา น่าแปลก เขาไม่ห้ามเด็กสาว ปล่อยให้เธอพันผ้าให้เขาอย่างอ่อนโยน
“เจ็บมากไหมคะ” เธอถามเขาเสียงอ่อนโยน นานแค่ไหนแล้วที่มีคนใส่ใจและเป็นห่วงในความรู้สึกของเขา น้ำตาของชายหนุ่มไหลไม่รู้ตัว นั่นคงทำให้เด็กสาวตกใจน่าดู เธอจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้เขา ศิลารับและเช็ดน้ำตา แต่ทำยังไงน้ำตาก็ไม่หยุดไหล เด็กสาวคงไม่รู้จะทำตัวยังไง เธอแตะไหล่เขาและค่อยๆตบเบาๆ ทำไมเด็กสาวที่ไม่เคยมองหน้าหรือคุยกันเลยถึงทำให้เขาดีขึ้นได้ขนาดนี้…
ใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะหยุดร้อง ตอนนี้ศิลารู้สึกดีขึ้นมากๆ มันเหมือนทุกๆอย่างที่เขาคิดและทุกๆอย่างที่เขาแบกไว้เบาลง เขาหันมองเด็กสาวตรงหน้า
ตลอดเวลาที่เขาร้องไห้ เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงตบไหล่เบาๆและรอต่อไปจนเขาหยุดร้อง ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวแปลกหน้าคนนี้จะเปลี่ยนความคิดของเขา
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่” ศิลาเริ่มต้นบทสนทนา
“เอ่อ…ถ้าฉันบอก พี่ห้ามโกรธฉันนะคะ” เด็กสาวหลบตา
“โอเค พี่จะไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่พูดเสียงดัง” เขาตอบ
“ฉันตามพี่มาค่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าพี่จะขึ้นไปเอาของ แต่เห็นว่าพี่เข้าไปนานแล้ว อีกอย่างก็ใกล้มืดแล้วด้วย เลยกลัวว่าพี่จะทำอะไร ที่ฉันคิดมาตลอกว่าพี่จะทำ” เธอเหลือบมองมือของชายหนุ่ม ศิลาก้มมองเช่นเดียวกัน
“เธอรู้…ว่าฉันทำร้ายตัวเอง” เขามองตาเด็กสาว ครั้งนี้เธอไม่หลบตา
“ค่ะ ฉันรู้ รอยแผลแบบนี้ ฉันรู้ดีค่ะ” เธอหลบตาชายหนุ่มอีกครั้ง เขาเลิกคิ้วสงสัย
เขาไม่ทันพูดอะไร เด็กสาวก็เหมือนรู้ใจ
“คุณแม่ของฉันเคยทำแบบนี้ค่ะ แม่เสียใจที่พ่อไปมีครอบครัวใหม่ แล้วก็…ไม่เคยมาดูแลเราเลย ตั้งแต่ฉันจำความได้ แม่ไม่เคยคุย ไม่เคยเล่น ไม่เคยกอดฉันเลยสักครั้ง ฉันเคยเห็นแม่ทำร้ายตัวเองต่อหน้าต่อตา และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวก็เกิดขึ้นค่ะ…”
ไม่ต้องให้เธอเล่าต่อ เขาก็เดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น แววตาของเด็กสาวดูเศร้า ศิลารู้สึกผิดทันทีที่ไปเรียกเธอว่ายัยเฉิ่ม
“ฉันเสียใจด้วยนะ” เขาพูด
เด็กสาวหันมาสบตาชายหนุ่ม แววตาเริ่มกลับมาสดใสขึ้น
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้ม
เพราะรอยยิ้มของเธอรึเปล่า ทำให้เขามองเด็กสาวเปลี่ยนไป เด็กสาวตรงหน้าไม่ใช่ยัยเฉิ่มอย่างที่เขาเห็นตลอดมา กลับกัน เมื่อมองใบหน้าดีๆ เธอเป็นเด็กที่สวย น่ารักสมวัย ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเด็กสาวเปลี่ยนไปจากตอนแรกโดยสิ้นเชิง
“พี่ขอโทษด้วยนะ ที่เรียกเธอ…เอ่อ…น้องว่ายัยเฉิ่ม”
เด็กสาวเลิกคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะยิ้มและตอบกลับเขา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ทั้งสองคนเงียบไปสักพักหนึ่ง มองดูวิวของดวงตะวันที่ค่อยๆเคลื่อนตัวลง จนเด็กสาวเริ่มพูดกับเขาอีกครั้ง
“นี่ก็มืดแล้ว เรากลับกันเถอะค่ะ” ศิลาพยักหน้า ทั้งสองลุกขึ้น
“โอ้ย!!” เด็กสาวร้อง ศิลาเห็นว่าเธอแทบยืนทรงตัวไม่ได้
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ข้อเท้า…ปวดตรงข้อเท้ามากเลยค่ะ” เธอกัดฟันตอบ
ศิลาก้มตัวลงดูข้อเท้าของเธอ ข้อเท้าของเด็กสาวบวมแดง สงสัยจะขาแพลงตอนที่ล้มกระแทกพื้นตอนที่ช่วยเขาไว้
“สงสัยขาจะแพลง อืม…ขึ้นหลังพี่มา” ศิลาย่อตัวลงเพื่อให้เด็กสาวขึ้นได้ถนัด
“เอ่อ…คือ…” เด็กสาวลังเล
“ถ้าไม่ขึ้นมา กว่าจะลงไปได้ ลุงยามล็อกโรงเรียนพอดี ทั้งพี่และเธอก็จะกลับบ้านไม่ได้ มันจะยิ่งเสียเวลา”
“ค่ะๆ ขึ้นก็ได้ค่ะ” เธอตอบทันที
ระหว่างที่เดินลงไป ความรู้สึกของศิลาที่มีต่อเด็กสาวคนนี้ก็แตกต่างจากช่วงแรกไปเรื่อยๆ จากที่ไม่ค่อยชอบ กลับกลายเป็นรู้สึกดี รู้สึกสบายใจ กล้าที่จะคุยที่จะเล่าอะไรให้เธอฟัง จริงอยู่ที่เธอเป็นเด็กม.3 แต่ความคิดของเธอเป็นผู้ใหญ่ เธอเป็นผู้ฟังที่ดีและเข้าใจเขามากๆ ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเริ่มดีมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะทางที่ยวนานนั้นดูสั้นลงไปเลยเมื่อได้มีคนคุยด้วย จนในที่สุดก็ถึงชั้นล่างสุดของอาคาร เด็กสาวลงจากหลังของเขา ศิลาค่อยๆพยุงเธอเดินจนออกมานอกอาคาร ทั้งที่คิดว่าคนจะกลับไปหมดแล้ว แต่ไม่ใช่เลน ยังคงมีหญิงสาววัยกลางคนกำลังนั่งรอใครสักคนอยู่
“ป้าคะ” เด็กสาวเรียก
“ตะวัน ป้าเป็นห่วงแทบแย่ เย็นแล้วยังไม่มาหาป้าสักที” หญิงสาวรีบเดินมาหาเธออย่างร้อนรน
‘ตะวัน’ ชายหนุ่มคิดในใจ
“ขอโทษค่ะคุณป้า ตะวันติดธุระนิดหน่อยค่ะ เลยลงมาช้า”
“แล้วนี่…” หญิงวัยกลางคนหันมาทางศิลา
“ผมชื่อศิลาครับ เป็นรุ่นพี่ของตะวัน พอดีผมเป็นรุ่นพี่ที่ไปแข่งพร้อมๆกับตะวันน่ะครับ มีติดติวนิดหน่อย เลยทำให้น้องลงมาช้าน่ะครับ” เขาจำเป็นต้องโกหก หากเขาบอกความจริง คุณป้าของเธอคงไม่ให้เขาพบกับตะวันอีกก็ได้
“ยินดีที่ได้รู้จักนะจ้ะ แล้วนี่ตะวันเป็นอะไรน่ะลูก ทำไมต้องให้พี่เขาพยุง”
“ตะวันสะดุดล้มน่ะค่ะ สงสัยขาจะแพลง พี่ศิลาก็เลยช่วยพยุงตะวันลงมาค่ะ” เด็กสาวตอบ
“ขอบคุณมากๆนะจ้ะหนูที่ช่วยหลานป้า”หญิงวัยกลางคนหันมาหาเขา ศิลาพยักหน้ารับ
“ป่ะลูก ตะวัน ที่บ้านมีเรื่องด่วนต้องคุยกัน เราต้องรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย” ป้าของตะวันรีบมาพยุงเด็กสาวแทนเขา และรีบพาเธอเดินไปอย่างเร่งรีบ
เดินไปสักพัก เด็กสาวหันกลับมาหาเขา
“ขอบคุณค่ะ พี่ศิลา” เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม
ชายหนุ่มยิ้มตอบ
“ขอบคุณตะวันเช่นกันนะที่ช่วยพี่ ไว้เจอกัน”
เด็กสาวพยักหน้า ก่อนหันกลับไปเดินต่อ
ศิลายังคงยิ้มอยู่ ความรู้สึกดีๆที่มีต่อรุ่นน้องคนนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้เลยว่า
นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาได้คุยและได้เจอกับเด็กน้อยมอต้นที่ชื่อว่า
“ตะวัน”
ฝากนิยายเรื่องแรกของเราด้วยนะคะ คิดพล็อตในหัวนานมาก กว่าจะมีไฟเริ่มแต่งขึ้นมา ก็ใช้เวลานานอยู่ค่ะ หวังว่าผู้อ่านจะสนุกและเพลิดเพลินไปกับเรื่อง แค่เพียงเธอนะคะ
***สปอยว่า พระเอกของเราเห็นเงียบๆ เคร่งขรึมแบบนี้ แต่จริงๆแล้วเป็นคนอบอุ่นมากๆเลยค่ะ (ใครสายชอบพระเอกฟีลขรึมๆแต่ตัวจริงอบอุ่น พระเอกเรื่องนี้เป็นแบบนั้นเลยค่า)
ในส่วนของตัวละคร เราอยากให้ทุกคนได้อ่านกันไปก่อนน้าาาาา ยังไม่อยากบอกตัวละครให้ทุกๆคนได้รู้ เดี๋ยวทุกคนจะจำหน้าตัวละครที่เราเอาภาพมาไว้หมด อยากให้ทุกคนอ่านเรื่องนี้ และมีความสุขไปกับการจินตนาการพระเอกนางเอกและตัวละครอื่นๆในฉบับของตัวเอง ขอให้สนุกไปกับเรื่องนี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาาาา????
ผลงานอื่นๆ ของ สายฝนสู่สายรุ้ง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สายฝนสู่สายรุ้ง
ความคิดเห็น